พรายสังคีต [อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์+โบนัส พิมประภา] ( 4 แผ่นจบ )

พรายสังคีต [อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์+โบนัส พิมประภา] ( 4 แผ่นจบ )
รหัสสินค้า 70399
หมวดหมู่ ละครไทย
ราคา 160.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
เสียง : พากย์ไทย

เรื่องย่อพรายสังคีต

การเปลี่ยนแปลงโจทย์เพลงที่จะใช้ในการประกวดดนตรีไทยระดัอุดมศึกษา ภายใต้ชื่องาน สังคีตศิลป์ถิ่นไทย อย่างกะทันหันจากเพลงบุหลันมาเป็นเพลงเขกมอญ ส่งผลให้ผู้ดูแลวงดนตรีอย่าง โฉมยงค์ (ปนัดดา เรืองวุฒิ) เป็นทุกข์มาก เพราะรู้ดีว่านักดนตรีจากมหาวิทยาลัยคู่แข่งมีความชำนาญในการบรรเลงเพลงแขกมอญชนิดหาตัวจับยาก นั่นทำให้ลูกศิษย์ของหล่อนตกเป็นรองตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งด้วยซ้ำ วันแข่งขันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หนทางเดียวในการแก้ไขปัญหาที่โฉมยงค์พอจะนึกออกก็คือหาเพลงแขกมอญฉบับที่แตกต่างออกไปจากของคู่แข่ง หล่อนมองให้เห็นใครที่จะช่วยได้นอกจาก ยชญ์ (อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์) อดีตนักศึกษาของภาควิชาสังคีตศิลป์

         ยชญ์เป็นเจ้าของร้านเสียงสังคีต ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องดนตรีไทยที่เก่าแก่มากที่สุดร้านหนึ่ง ที่สำคัญชายหนุ่มเป็นทายาทของตระกูล วิจิตรวาทิน ตระกูลนักดนตรีเก่าแก่ที่สืบทอดเชื้อสายกันมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น บรรพบุรุษผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของตระกูล นี้คือ ครูพุก (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ซึ่งเป็นเอตทัคคะด้านการบรรเลงซอสามสายในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยครูพุกได้ประพันธ์เพลงแขกมอญทางเดี่ยวซอสามสายเอาไว้ ชื่อเพลง ท่วมธรณี

         ยชญ์มีผู้ช่วยสาวที่ชื่อ อิงอร (ณัฐชา นวลแจ่ม) ซึ่งยชญ์ชื่นชมในการทำงานนิสัยใจคอมาก โดยไม่รู้ว่าที่อิงอรมาทำงานกับยชญ์ก็เพื่อจะหาโอกาสขโมยโน้ตเพลงพรายคลั่ง ตามคำสั่งของ ปกรณ์ (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) แฟนหนุ่มผู้มีใบหน้าที่มีแผลเป็นที่น่ากลัวด้านหนึ่ง และเป็นเหลนของนายกล้า (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) ลูกชายบุญธรรมของ ครูเทิด (ศรรม เทพพิทักษ์) ปกรณ์เป็นหนึ่งในเหยื่อที่ตกอยู่ในบ่วงเวรกรรมจากคำสาปแช่งของครูเทิด ปกรณ์ผู้ซึ่งฝึกฝนสมาธิจนสามารถใช้ทิพจักขุญาณในการล่วงรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคต แต่ไม่ทันการณ์เพราะยชญ์ได้มอบสำเนาโน้ตเพลงทางเดี่ยวซอสามสายพร้อมทั้งบทร้องให้แก่โฉมยงค์เพื่อนำไปให้นักศึกษาฝึกซ้อมสำหรับการประกวดที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ โดยนักดนตรีที่จะทำการบรรเลงซอสามสายคือ เมญากร (พิมประภา ตั้งประภาพร) ส่วนผู้ทำการขับร้องคือ พวงแพร (ปริตา ไชยรักษ์)

          ครั้งแรกที่เมญากรเห็นโน้ตและตั้งท่าจะสีซอ สายซอทั้งสามก็ขาดผึงพร้อมกัน ทั้งศิษย์ทั้งครูจึงต่างจุดธูปเพื่อขอขมาเจ้าของบทประพันธ์ผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่ก็ยังคงเกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ชวนให้เด็ก ๆ คิดไปว่าเพลงท่วมธรณีน่าจะมีอาถรรพ์อะไรสักอย่างโดยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว คือการกระทำของดร.พิบูล (อุเทน พรหมมินทร์) เพื่อต้องการให้ทีมแพ้เพราะหวังตำแหน่งและหุ้นส่วนใหญ่กับมหาวิทยาลัยคู่แข่ง แต่ในที่สุดโฉมยงค์ก็จับได้ว่าเป็นการกระทำของดร. ทำให้เด็กเลิกหวาดกลัวและกลับมาซ้อมเพลงกันอย่างจริงจัง

         ด้านปกรณ์นั่งสมาธิเห็นการตายของโฉมยงค์หลังการร้องเพลง ทำให้ปกรณ์รีบร้อนจะมาห้าม แต่เกิดวูบหมดสติต้องเข้าโรงพยาบาล พวงแพรไม่สบาย ทำให้โฉมยงค์ต้องร้องเพลงท่วมธรณีแทนไปก่อน และระหว่างที่ซ้อมอยู่คนเดียวในห้องซ้อมซึ่งตรงกับคืนวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง โฉมยงค์เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดกับตัวเอง เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากทวารทั้งเก้าของหล่อน แม้พยายามจะหยุดร้อง แต่กลับควบคุมตัวเองไม่ได้ หล่อนขาดใจตายในห้องดนตรีทันทีที่ร้องเพลงท่วมธรณีจบ เพราะอาถรรพ์จากคำสาปของเทิดซึ่งเป็นพี่ชายของครูพุก และเป็นเจ้าของบทประพันธ์อันแท้จริง และเป็นการปลุกวิญญาณของเทิดที่ถูกจองจำให้ออกมาได้ ตำรวจไม่สามารถหาการตายของโฉมยงค์ได้ และสุดท้ายก็ลงความเห็นว่าโฉมยงค์ตายเพราะภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ในขณะที่วิญญาณของเทิดได้พยายามตามหากล้าและ ดวง (ญาดา เทพนม) เพื่อจะแก้แค้นอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่ากล้าได้กลับมาเป็นปกรณ์นั้นเอง

         ยชญ์ยังคงต้องทำหน้าที่ในการซ้อมเพลงท่วมธรณีต่อไป ทั้ง ๆ ที่เขารู้สึกแปลก ๆ พวงแพรเองก็ไม่อยากร้อง แต่ในที่สุดเมื่อวันประกวดมาถึง พวงแพรก็ต้องร้องเพลงท่วมธรณี แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อพวงแพรเองก็เสียชีวิตด้วยลักษณะอาการคล้ายกับโฉมยงค์บนเวทีการประกวดนั้นเอง ยชญ์และเมญากรเริ่มแน่ใจว่า เพลงท่วมธรณีต้องมีอาถรรพ์จริง ๆ ทั้งสองคนจึงเริ่มลงมือสืบ และในที่สุดก็ได้เจอกับปกรณ์ โดยมีอิงอรเป็นสื่อให้ได้พบกัน จนทำให้ได้รู้เรื่องราวเบื้องหลังของโน้ตเพลงท่วมธรณีว่าจริง ๆ แล้ว ผู้ประพันธ์เพลงนี้ก็คือครูเทิด ซึ่งเป็นพี่ชายของครูพุก ด้วยความแค้นในอดีตที่เกิดขึ้นกับกล้า ลูกชายบุญธรรมและดวงเมียรัก และที่ปกรณ์สามารถรู้เรื่องราวทุกอย่างได้ก็เพราะจากการเข้าฌานนั่งสมาธิที่มีหลวงพ่อเป็นคนสอนให้

        ย้อนกลับไปสู่ปีพุทธศักราช 2435 หม้ายสาวลูกติดผู้สวยสะพรั่งนามว่า ดวง (ญาดา เทพนม) พาเจ้าแดงลูกชายวัยเจ็ดขวบมาขอเล่าเรียนระนาดเอกกับ ครูเทิด (ศรราม เทพพิทักษ์) เพียงครั้งแรกที่ครูเทิดเห็นหน้าแม่ดวงก็เกิดหลงรักในทันที เทิดเคยมีเมียมาแล้วคนหนึ่ง แต่หล่อนเสียชีวิตไปด้วยโรคเปลี่ยวดำ จากนั้นครูเทิดก็ครองตัวเป็นหม้ายมานานร่วมยี่สิบปี มุ่งมั่นในทางดนครี ไม่เคยชายตาแลหญิงใด ครูเทิดตัดสินใจรับเจ้าแดงไว้เป็นศิษย์ด้วยความหลงใหลในตัวแม่ของเด็กน้อย เขาแนะนำแม่ดวงให้รู้จักกับ กล้า (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) ลูกชายบุญธรรมทุกเขาเก็บมาชุบเลี้ยงตั้งแต่อ้อนแต่ออก กล้ารู้สึกคุ้นหน้าสตรีผู้นี้เป็นอย่างมาก แต่พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน เขาได้แต่เก็บความสงสัยไว้เงียบ ๆ

หมวดหมู่สินค้า

ระบบสมาชิก

เช็คสถานะพัสดุ

*ใส่ เบอร์มือถือ หรือ email ที่ใช้ในการสั่งซื้อ

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม41,174 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด19,324 ครั้ง
เปิดร้าน28 ก.พ. 2565
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านwww.Welovedvdhit.Com ศูนย์รวมหนังดีหนังดังทุกประเภท
www.Welovedvdhit.Com ศูนย์รวมหนังดีหนังดังทุกประเภท
ขายdvd ขายหนัง dvd ขายหนังแผ่น ราคาถูกคุณภาพดี เว็บขายหนังราคาถูก ดีวีดีราคาถูก ดีวีดีมาสเตอร์ ดีวีดีหนัง สั่งซื้อหนัง ดีวีดีซีรีย์เกาหลี ดีวีดีหนังเกาหลี ดีวีดีหนังฝรั่ง · ดีวีดีซีรี่ย์เกาหลี · ดีวีดีละครไทย · ดีวีดีซีรีย์ฝรั่ง ขายดีวีดี หนังใหม่ ขายหนังdvd ขายหนังbluray ขายหนังดีวีดี ขายหนังบลูเรย์ ขาย Bluray ซื้อ Bluray ขายหนัง dvd ขายหนังดีวีดี ละครไทย การ์ตูน ราคาถูก.
เบอร์โทร :
อีเมล : softgamespc.com@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม